www.pojjaman.com

ถอดรหัสความสำเร็จ CRE-FUL เติบโตแบบก้าวกระโดดในแบบฉบับของ ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน

จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด : 2,647


Highlights

  • CRE-FUL ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด จากที่เคยรับงาน 500 ล้านต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านต่อปี โดยมีพนักงานจำนวนเท่าเดิม
  • การ Disruption ธุรกิจ จากรุ่นคุณอาสู่รุ่นหลาน
  • การหาจุดกึ่งกลางในการทำงานร่วมกันระหว่างคน 2 เจเนอเรชั่น

 

CRE-FUL มาจากคำว่า CREATIVE กับ SUCCESSFUL ชื่อนี่คุณอาผมตั้งเมื่อ 25 ปีที่แล้ว คุณอาท่านอยากให้เราเข้าไปหาลูกค้าด้วยคำว่า CREATIVE และจบด้วยคำว่า SUCCESSFUL ท่านตั้งมานานแล้ว และผมก็รู้สึกถึงพลังในความหมายของมันจนถึงทุกวันนี้

 

นี่คือคำนิยามที่บอกเล่าเรื่องราวบริษัทรับเหมาตกแต่งภายใน (Interior Contractor) CRE-FUL ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ภายใต้การนำของ คุณเอิ๊ก ปัญญาพล ศรีตั้งศิริกุล หัวเรือใหญ่ที่รับช่วงธุรกิจต่อจากคุณอา (คุณวสันต์ เต็มแสวงเลิศ)

และเพื่อล้วงเคล็ดลับความสำเร็จที่ว่า เราจึงเรียนเชิญคุณเอิ๊กผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ CRE-FUL มาพูดคุยกันใน Session Digital Transformation for Construction ที่งานรักเหมา fest 2019

ตามไปฟัง วิธีคิด วิธีทำงานระหว่างคน 2 เจเนอเรชั่น และความท้าทายในการรับช่วงธุรกิจต่อจากคุณอา ผ่านบทสัมภาษณ์ของคุณเอิ๊กกันค่ะ

ถอดรหัสความสำเร็จ CRE-FUL เติบโตแบบก้าวกระโดดในแบบฉบับของ ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน

 

ผู้รับเหมาก่อสร้าง กับ ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน

” คนส่วนมากมักมองว่าผู้รับเหมานั้นทำแค่ก่อสร้าง บ้าน คอนโด แต่ในส่วนของผมซึ่งเป็นผู้รับเหมาตกแต่งภายในที่เข้าไปรับช่วงต่อจากผู้รับเหมาโครงสร้าง พอเขาสร้างตึก สร้างคอนโด สร้างห้างสรรพสินค้าเสร็จ งานของผมก็คือการตกแต่งภายในตามแบบของลูกค้า จากพื้นที่โล่งๆนั้นก็จะกลายมาเป็นออฟฟิส ร้านค้า หรือที่อยู่อาศัยได้จริง

เราทำงานคู่กับดีไซน์เนอร์ คู่กับเจ้าของอาคาร หรือว่าลูกค้าโดยตรง ซึ่งแต่ละคนจะมีความต้องการที่แตกต่างกัน ทำให้งานของเราจะไม่เชิงก่อสร้างที่เป็นวิศวะ 100 เปอร์เซ็นต์ งานของเราเป็นวิศวะ 70 เปอร์เซ็นต์  และศิลปะ 30 เปอร์เซ็นต์ อย่างงานก่อสร้างเราจะเห็นชัดเจนว่าต้องเป็นปูน เป็นเสา เป็นอิฐ แต่งานตกแต่งภายในต้องอาศัยความเข้าใจลูกค้าในรูปแบบที่แตกต่างออกไป “

 

ความรู้สึกของลูกค้าสำคัญกว่าข้อความที่อยู่ในเอกสาร

งานประเภทนี้มีเอกสารที่หลากหลายแต่เราเลือกที่จะสนใจกับความรู้สึกของลูกค้ามากกว่าอะไรที่อยู่ในเอกสาร เราพร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบงานตามความต้องการของลูกค้าและชี้แจงผลกระทบต่างๆตามความเป็นจริง จุดนี้เป็นหนึ่งในจุดยืนของบริษัทเรา ที่ทำให้เราอยู่ในธุรกิจนี้ได้นานหลาย ๆ ครั้งที่เราเข้าไปรับงานกับลูกค้า เรามีภาพและแผนงานในหัวแล้วว่าเราจะทำงานให้สำเร็จ และตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างไร เรารู้สึกยินดีที่ลูกค้าเลือกเรา วันที่เราทำสำเร็จเราภูมิใจและแฮปปี้ที่สามารถส่งมอบผลงานให้ลูกค้าได้ตรงตามความต้องการ ตรงนี้ยิ่งเป็นเหมือนรางวัลและแรงผลักดันให้เราสนุกกับการทำงานและมีความสุขกับสิ่งที่เราทำ

ธุรกิจของผมจะดำเนินไปในแนวทางประมาณนี้ จะไม่เชิงเอกสาร 100 เปอร์เซ็นต์ หลาย ๆ ครั้งเราต้องเข้าใจลูกค้ามาก ๆ ต้องยอมให้ลูกค้าเปลี่ยนจนกว่าลูกค้าจะพอใจนี่คือเนเจอร์ของ ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน

ถอดรหัสความสำเร็จ CRE-FUL เติบโตแบบก้าวกระโดดในแบบฉบับของ ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน

 

เปิดโอกาสตัวเองให้รับงานได้ทุกสเกล

” จากประสบการณ์ของบริษัทนั้นเราทำงานแทบทุกสเกล ทุกสโคป ผมสามารถรับงานได้ตั้งแต่ไซส์เล็ก ๆ 200 ตารางเมตร เช่นงานช็อปที่อยู่ในห้าง หรืองานไซส์กลาง เช่นงานออฟฟิศทั่วไป ขนาดประมาณ 1,000 – 1,500 ตารางเมตร หรือจะเป็นออฟฟิศที่ใหญ่ขึ้นมา พื้นที่มากกว่า 5,000 ตารางเมตร หรือจะเป็นงานฟิตเนส ร้านอาหาร ที่อยู่อาศัย โรงเรียน โรงพยาบาล เราก็สามารถทำได้ และเราทำใน Portion ที่ไม่เท่ากันในแต่ละส่วน ประสบการณ์ตรงนี้สอนให้เรามีทักษะเฉพาะด้านที่แตกต่างกัน พอเราทำภาพรวมได้ เราจะให้คำแนะนำลูกค้าได้ดีขึ้น อย่างเช่นเราเคยทำร้านอาหารมา พอเราไปทำออฟฟิศลูกค้าอยากจะมีครัวในออฟฟิศ เราสามารถให้คำแนะนำกับลูกค้าได้ อย่างนี้ดีครับพี่ อย่างนี้ไม่ดีนะครับ เราเลยเปิดโอกาสตัวเองให้รับสเกลของงานได้แทบทั้งหมด “

ถอดรหัสความสำเร็จ CRE-FUL เติบโตแบบก้าวกระโดดในแบบฉบับของ ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน

ถอดรหัสความสำเร็จ CRE-FUL เติบโตแบบก้าวกระโดดในแบบฉบับของ ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน

ถอดรหัสความสำเร็จ CRE-FUL เติบโตแบบก้าวกระโดดในแบบฉบับของ ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน

เราต้องมีตัวตนที่ดีก่อนถึงจะทำธุรกิจออกมาให้ดีได้

” ผมไม่ได้ตั้งธุรกิจขึ้นมาเอง ผมเข้ามารับช่วงต่อจากคุณอา ท่านพยายามจะสอนให้ถ่ายตัวตนของเราลงไปที่ธุรกิจ ซึ่งเราต้องมีตัวตนที่ดีก่อนถึงจะทำธุรกิจออกมาให้ดีได้ อาชีพผู้รับเหมาเราต้องทำให้ลูกค้าไว้ใจ เขามาจ้างเรา เขาไม่รู้อะไร เขาต้องการความเชื่อใจจากเรา เราต้องไม่ขี้โกงเขา ความรู้สึกพวกนี้เราก็ต้องถ่ายทอดลงไปให้กับพนักงานของเรา เราคิดว่าเราก็รักษาเรื่องนี้มาเป็นเวลานานตั้งแต่รุ่นคุณอาผม เราไม่เคยหนีงาน ไม่เคยทิ้งงาน และเราก็จะรักษาสิ่งเหล่านี้ตลอดไป เราเซอร์วิสลูกค้าด้วยความตั้งใจที่อยากเซอร์วิสลูกค้าจริงๆ งานจบไปแล้วอะไรไปแล้ว เราก็อยากจะช่วยเหลือว่าลูกค้าขาดเหลืออะไร บางทีเงินไม่พอ ระยะเวลาไม่ได้ เราก็ต้องเต็มใจที่จะช่วยเขา ไม่มองว่าเป็นแค่งานงานนึงเท่านั้น “

 

ผมไม่รู้ว่า Definition คำว่า “คุณภาพ” ของแต่ละคนคืออะไร สำหรับผมคือ ความพึงพอใจของลูกค้า 

” คำว่า “คุณภาพ”  Definition มันยากมาก โดยเฉพาะของตัวงานที่เป็นศิลปะแบบนี้ สุดท้ายเราก็เลยมาจบกันที่ว่า เราต้องทำให้ลูกค้าพึ่งพอใจและรู้สึกประสบความสำเร็จที่สุดที่เขาเชื่อมั่นในเราและให้เรามาดูแลพื้นที่ของเขา “

ถอดรหัสความสำเร็จ CRE-FUL เติบโตแบบก้าวกระโดดในแบบฉบับของ ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน

WISDOM LOUNGE

 

เราไม่จำเป็นต้องลงทุน 2 เท่า เพื่อรองรับโอกาส 2 เท่า

” เมื่อก่อนเรารับงานทั้งปีอยู่ที่ 500 ล้านบาท พอคุณอาผมมีคนรุ่นใหม่ ๆ เข้ามาช่วย เราได้โอกาสทางภาษาอังกฤษมากขึ้น เราจึงขยายตลาดออกไปได้กว้างขึ้น ทำให้มีโอกาสจากข้างนอกเข้ามา เราก็รู้แล้วว่าเรามีศักยภาพสามารถรับงานได้มากขึ้นเป็น 700 800 ล้านบาท อันนี้เป็นโอกาสทางหน้าบ้าน แต่เรารู้ว่าหลังบ้าน คนที่ต้องมาพิมพ์ข้อมูล เขียนข้อมูล เขาต้องมีภาระงานเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เราไม่เลือกที่จะไปจ้างคนเพิ่มเป็น 2 เท่าเพื่อมารองรับงานที่เพิ่มขึ้น

เราเลยต้องหาเทคโนโลยีที่มาช่วยเราบริหารจัดการสิ่งที่เพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ต้องเพิ่มต้นทุนเป็นจำนวนเท่าตาม สิ่งที่เราคุยกันมาและอยากจะทำอย่างแรกก็คือ เราต้องมีระบบกลางที่ดูแลข้อมูลทั้งหมด ลดปริมาณงานให้น้อยลง ไม่ต้องทำผ่านกระดาษ ไม่ต้องผ่านการเขียน หรือการพิมพ์ซ้ำๆ ตัวหลักที่เราตัดสินใจจะลงทุนก็คือ ระบบ ERP โปรแกรม Pojjaman ที่ซื้อมาใช้ มันสะท้อนให้เห็นว่า เราไม่จำเป็นต้องลงทุน 2 เท่า เพื่อรองรับโอกาส 2 เท่า เราอาจจะลงทุนแค่ครึ่งเท่า หรืออาจจะเท่านึง แต่ว่าทำให้เรารับงานได้เยอะขึ้น เราเริ่มลงทุนจากตรงนี้ก่อน เพราะว่าเราไม่อยากปิดโอกาสตัวเองที่งานเข้ามา แล้วเราทำงานเอกสารไม่ไหว หน้างานก็เป็นอีกเรื่องนึง แต่ว่างานทางด้านเอกสารหรือหลังบ้านเราใช้วิธีให้ Data ทำงานมากกว่าเพิ่มจำนวนคนให้ไปรองรับ และในปีที่ผ่านมาเราเติบโตค่อนข้างดี เราทำยอดได้ประมาณ พันล้านต่อปี

 

ไม่พูดคำว่า Digital Disruption ให้เป็นเรื่องที่น่ากลัว

เราพยายามไม่พูดคำว่า Digital Disruption ให้เป็นเรื่องที่น่ากลัว เราพยายามให้เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องง่าย เหมือนเมื่อก่อนเราใช้มือถือแบบกด สุดท้ายทุกคนก็ต้องใช้มือถือที่เป็นทัชสกรีนกันหมด จริง ๆ สิ่งเหล่านี้มันคือ Digital Disruption โดยที่พวกเขาไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากลำบากกับชีวิต 

ผมทำให้เขารู้สึกว่า เขาไม่ได้โดนบังคับให้เปลี่ยน แต่ว่าเราขอความร่วมมือเพื่อช่วยกันพัฒนา ผมจะโดนเสียงต้านน้อยลง น้อยลง สิ่งสำคัญที่เราพยายามทำก็คือ หน้าบ้านทีม Management ที่พยายามทำการบ้านอย่างหนักคือเราต้องเข้าใจมันจริง ๆ ว่าสิ่งที่เรากำลังจะเอามามันส่งผลกระทบกับทีมงานเรามากน้อยขนาดไหน แล้วเราเลือกสเกลมาเฉพาะที่มันเหมาะสม อย่างเช่นระบบ ของ Pojjaman ที่เราคุยกันมา ผมเสียงแข็ง ผมต้องเอามาใช้ให้ได้ พอผมได้นั่งคุยกับทีม Pojjaman ก็รู้ว่าโปรแกรมมีศักยภาพสูง แต่เนื่องด้วยทีมงามผม คนที่อยู่กับเรามาเขาจะเก่งเรื่องหน้างานแต่จะไม่คุ้นชินกับการใช้คอมพิวเตอร์ เราจึงต้องเลือกที่จะพัฒนาโปรแกรมเป็นเฟส เฟสไป โดยผมเลือก Implement ในส่วนที่ตอบโจทย์เรามากที่สุดก่อน แล้วค่อยเพิ่มฟังก์ชั่นเข้าไป 

ทุกวันนี้ผมสามารถทำให้ทีมงามทั้ง 15 ทีมออกไปทำงานแต่ละพื้นที่ ทุกทีมสามารถ Control Budget ได้ด้วยมือถือ ผ่านโปรแกรม Pojjaman ที่เราตกลงกันไว้ ว่าราตั้ง Budget ไว้ 5 บาท คุณใช้ไปแล้ว 4 บาท งานผ่านไปแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์โอเคยังอยู่ใน Budget เขาก็ไม่รู้สึกว่ามันยุ่งยากกับชีวิตเขา และเขาได้ประโยชน์ตอบแทนกลับมาด้วยคือเขาสามารถ Control Budget ให้อยู่ได้ สามารถสั่งงานผ่านมือถือได้ ไม่ต้องเอาเอกสารวิ่งไปส่งเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ลดเวลา ลดขั้นตอน เขาสามารถดูทุกอย่างผ่านมือถือได้อย่าง real time และรู้สึกว่าเขาสามารถเพิ่มศักยภาพรับงานได้มากขึ้น 

ถอดรหัสความสำเร็จ CRE-FUL เติบโตแบบก้าวกระโดดในแบบฉบับของ ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน

 

การ Disruption ที่ยากที่สุด คือการรับช่วงต่อธุรกิจจากรุ่นคุณอามาสู่รุ่นผม

” Disruption ที่ผมเจอมาตั้งแต่เข้ามาในธุรกิจนี้ ยากที่สุดเลยนั่นก็คือ Disruption ตั้งแต่รุ่นคุณอามารุ่นผม ผมว่ามันยากกว่า Digital Disruption เยอะ ผมอายุน้อย แล้วคนในองค์กรก็อายุมากกว่า เราต้องใช้ความเข้าใจอย่างมาก ว่าคนที่อายุมากกว่าเขารู้สึกอย่างไร เขามองอย่างไร เขามองเราอย่างไร มันจะบังคับให้เราปรับตัวหลาย ๆ อย่าง 

คุณอาผมจะสอนผมเสมอว่า เราต้องเคารพคนที่อยู่คนละเจเนอเรชั่นกับเรา รุ่นผมเรายอมรับว่าเราเก่ง เราเร็ว ภาษาอังกฤษเราได้ เราใช้เทคโนโลยีเก่ง แต่ความเข้าใจหรือความอดทนแล้วก็ประสบการณ์เราไม่มีเลย แต่ในทางกลับกันคนรุ่นที่เขารันธุรกิจมาก่อน เขาเห็นและผ่านอะไรมาเยอะ เขาดูทีเดียวก็รู้แล้วว่าอันนี้ควรทำ อันนี้ไม่ควรทำ แต่ว่าจะให้เขารวดเร็ว คุยภาษาได้เหมือนรุ่นเรามันคงไม่ได้ เราเลยต้องระมัดระวังที่จะแลกเปลี่ยนความคิดกัน แล้วเลือกตรงกลางให้คนทั้งองค์กรค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนด้วยความเหมาะสม “

เราสามารถรับงานได้มากขึ้น โดยมีปริมาณคนเท่าเดิม

” เมื่อก่อนเราทำงานแบบบ้าน ๆ จดบันทึกทีละโปรเจคแยก ๆ กันไป กำไร-ขาดทุนเท่าไหร่ ตกบ้าง ขาดบ้าง โดนผู้รับเหมาโกงบ้าง นี่คือเนเจอร์ของผู้รับเหมาเมื่อหลายสิบปีก่อน ทุกวันนี้เรา Implement โดยการตั้ง Budget ของทุกโปรเจคแยกกัน แล้วให้คนหน้างานที่เป็นเจ้าของโปรเจคสั่งซื้อของผ่านโปรแกรม มีขั้นตอนการอนุมัติผ่านมือถือไม่ต้องรอนาน เราพยายามจะใส่ข้อมูลให้ง่าย ให้พนักงานรู้สึกว่าไม่ได้ยากขนาดนั้น แล้วเขาสามารถเช็คข้อมูลย้อนกลับมาได้ 

ผมมีประสบการณ์การทำ ERP มาก่อนจากการไปทำบริษัทต่างประเทศ ผมก็เลยพอเข้าใจว่าเราอยู่กับมัน มันมีความยากง่าย ในระดับประมาณไหน ผมมานั่งคุยกับทีม Pojjaman ผมก็เลยเลือกได้ว่าผมต้องการประมาณนี้ ผมไม่เอาเยอะกว่านี้ เพราะคนของผมไปไม่ถึง พอเราวางแผนตรงนั้นออกมาได้โอเค ฟีดแบคที่ผมได้รับมันเกินความคาดหวังของผมในระดับนึง นอกจากที่ทีมผมทำงานได้เป็นระบบแล้ว เขาสามารถดึงศักยภาพของเขาออกมาได้ดีมากยิ่งขึ้นเช่นกัน เขามีกระบวนการคิดว่าจะต้องจัดระเบียงแบบนี้ ต้องส่งแบบนี้ มันเป็นผลพลอยได้ทางอ้อมที่พนักงานผมได้ยกระดับตัวเองขึ้นมา ตอนนี้ผมสามารถรับงานได้มากขึ้นโดยมีปริมาณคนเท่าเดิม แล้วก็รู้ที่มาที่ไปของเงิน มันหล่นตรงไหน มันขาดตรงไหน ลูกหนี้เรายังไม่ได้ตามที่ใคร ถึงดีลเมื่อไหร่ พวกนี้ผมไม่ได้ทำในกระดาษแล้ว ผมทำอยู่ในโปรแกรมหมด 

เทรนการใช้งานโปรแกรม Pojjaman2

 

Pojjaman เป็นเจ้าแรกที่ทำ ERP ออนไลน์ ตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจอะไรในส่วนนี้มากนักไม่รู้ว่ามันจะส่งผลดีหรือไม่ดีแค่ไหน แต่ทุกวันนี้ผมเอาข้อมูลทุกอย่างไปไว้บน Cloud ของโปรแกรม Pojjaman ทั้งหมดเลย 

แต่ในส่วนข้อมูลของแบบ ผมก็เอาขึ้น Cloud ของ Microsoft ทั้งหมดเลย ทำให้ผมไม่มีเซิร์ฟเวอร์ผมจึงไม่ต้องลงทุนพัฒนาเซิร์ฟเวอร์ ทำให้เราสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ต้นทุนเราก็ควบคุมจากที่นี่ ถ้าคุณใช้เกิน เรามาคุยกันก่อน เราบล็อกไม่ให้คุณเปิดเพิ่มแล้ว มันช่วยให้ผมเซฟต้นทุนได้ค่อยข้างเยอะ เหลือเท่าไหร่ ขาดเท่าไหร่ ณ วันไหน 

ทีมที่ใช้งานจะมีทีมหน้างานกับทีมออฟฟิศ ทีมหน้างานเขาจะวัดได้ค่อนข้างง่าย เพราะตัวเลขที่เขาถืออยู่มันชัดเจน เขารู้สึกว่าช่วยบริษัทให้ทำกำไรได้เยอะขึ้น โปรเจคไม่ขาดทุน บริหารงานได้ง่าย สั่งง่ายได้เร็ว ตรวจสอบสถานะได้ เพราะความรู้สึกของคนหน้างานเขาก็อยากจะทำงานหน้างานให้ดี เรื่องเอกสารไว้ทีหลัง เพราะเนเจอร์เขาคือหน้างานจริงๆ เราพยายามทำให้เรื่องนี้ไม่ยากเกินไปสำหรับเขา ในขณะเดียวกัน หลังบ้าน เขาจะไม่สนใจว่าหน้างานคุณจะทำยาก หรือทำไม่ได้ แต่เอกสารต้องมา พอเราหาตรงกลางมาชนกันได้ง่าย ต่างจากเมื่อก่อนที่บัญชีบอกว่าเอกสารต้องมี ต้องมี แต่หน้างานบอกว่าไม่มี ไม่มี ตอนนี้ทุกคนแฮปปี้ขึ้น แล้วผมอยู่ตรงกลางผมก็สามารถดึงข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

 

เสน่ห์ของการเป็นผู้รับเหมาตกแต่งภายใน

” ผมนิยามอาชีพของผมว่า “รับเหมา” เราต้องรับเหมาทั้งดี และไม่ดี เวลาเรารับงานหนึ่งงาน มันก็จะมีทั้ง เรื่องที่คาดการณ์ไว้ และเรื่องที่เราไม่ได้คาดการณ์ไว้ เราต้องรับผิดชอบสิ่งที่เขาให้เรามา เราตั้งใจและอยากทำให้มันสวย ในวันที่งานเสร็จ ลูกค้าพอใจ นี่คือความสำเร็จของเรา

เรารันธุรกิจด้วยความบริสุทธิ์ เราอยากมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า, พาร์ทเนอร์ และซัพพลายเออร์ เราพยายามจะเปิดเผย จริงใจ ตรงไปตรงมา เราอยากจะดูแลลูกค้าให้ดี เราจึงเลือกที่จะทำ CRM กับทั้ง Supply chain เราเชื่อว่าการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุก ๆ ฝ่ายนั้นทำให้เราเติบโตอย่างยั่งยืน “

ถอดรหัสความสำเร็จ CRE-FUL เติบโตแบบก้าวกระโดดในแบบฉบับของ ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน

เยี่ยมชมผลงาน CRE-FUL : www.creful.co.th

 

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้ที่นี่เลยค่ะ ^^

ก่อสร้าง SMEs เติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วย Pojjaman2 Smart

เลิกขยัน แบบโง่ๆ ด้วยการ Work ให้ Smart

Work ให้ Smart ด้วย 10 ฟีเจอร์ จาก Pojjaman2

จับตา “EEC” Mega Project ความหวังใหม่ธุรกิจรับเหมา ก่อสร้าง

เบื้องหลังอสังหาฯ รายใหญ่ เมืองขอนแก่น Transform รับยุคดิจิทัล

อ่านบทความทั้งหมด คลิกเลย

 

X