www.pojjaman.com

เบื้องหลังอสังหาฯ รายใหญ่ เมืองขอนแก่น Transform รับยุคดิจิทัล

จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด : 2,499


“ขอนแก่น” พัฒนาเมืองด้วยดิจิตอล

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “ขอนแก่น” เป็นเมืองที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดภายใต้แนวคิด Smart City จนกลายเป็นต้นแบบสำคัญให้หัวเมืองหลักอื่นๆในภูมิภาคเริ่มตื่นตัวและพัฒนาเมืองของตนเอง

ทุกวันนี้ขอนแก่นมีฐานะเป็นหนึ่งในเมืองหลักของภาคอิสานที่ภาคประชาชนและเอกชนท้องถิ่นร่วมกันผลักดันและพัฒนาท้องถิ่นของตนเองจนทำให้เกิดโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) สายแรกของในภูมิภาคของไทย และยังมีรถโดยสารประจำทาง Smart Bus ให้บริการเป็นจังหวัดแรกอีกด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ภาครัฐยังผลักดันให้ขอนแก่นเป็น 1 ใน 5 เมืองหลักสำหรับการจัดประชุมนานาชาติหรือ MICE City และยังได้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญหลายโครงการ เช่น โครงการรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ-ขอนแก่น และโครงรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-ขอนแก่น-หนองคาย เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเมืองในอนาคตอีกด้วย

ทิศทางอสังหาฯขอนแก่น ปี 2562

คุณชาญณรงค์ บุริสตระกูล กรรมการผู้จัดการบริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด และนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดขอนแก่น ได้ให้สัมภาษณ์กับ “ประชาชาติธุรกิจ” เอาไว้ว่า

“ดูแนวโน้มหลังจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีโครงการเกิดขึ้นมาก ทำให้สถานการณ์ที่อยู่อาศัยในจังหวัดเกิดการชะลอตัว และยังมีปัจจัยจากการเข้มงวดของธนาคารที่ขอกู้ยาก แต่ปัจจุบันมีการลงทุนของทุนท้องถิ่นกว่า 60% และทุนส่วนกลาง 40% โดยเป็นโครงการแนวราบกว่า 70% และแนวดิ่ง 30%

แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นการพัฒนาในเขตตัวเมือง อาจจะมีอยู่ในต่างอำเภอบ้าง เพื่อเจาะกลุ่มคนทำงานระดับกลางไปจนถึงระดับสูงในโรงงานต่างอำเภอ เช่น เขตพื้นที่น้ำพอง อุบลรัตน์ หนองเรือ ท่าพระ ซึ่งบางส่วนนิยมเข้ามาพักในตัวเมือง เนื่องจากคำนึงถึงความสะดวกและปลอดภัย”

โดยโครงการส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมในจังหวัดขอนแก่น คือ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 50 ตารางวา ราคา 3-4 ล้านบาท รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ราคา 2-3 ล้านบาท แต่ที่น่าสนใจคือ เทรนด์บ้านราคาแพงกำลังมา ในราคาประมาณ 10 ล้านบาท ในปี 2560 พบบ้านราคาสูงถึง 15-20 ล้านบาท ที่ได้รับการตอบรับดี และในจังหวัดขอนแก่นมีทั้งที่ซื้อเป็นบ้านหลังแรก ซึ่งจะเป็นกลุ่มคนที่เรียนจบใหม่ เริ่มครอบครัวใหม่ นักธุรกิจเอสเอ็มอีใหม่ ๆ

อีกลักษณะหนึ่งคือ การซื้อบ้านหลังที่ 2 ที่มีแนวโน้มมากขึ้น ส่วนใหญ่มีบ้านอยู่แล้ว และเข้ามาซื้อในเมืองเพิ่ม ส่งผลให้แบรนด์ขนาดใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในจังหวัดมีอยู่ประมาณ 5 แบรนด์ ได้แก่ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, ศุภาลัย, แสนสิริ, พฤกษา และ ซี.พี.แลนด์”

อีสานพิมานกรุ๊ป บริษัทอสังหาฯเจ้าใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น

ดำเนินธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 35 ปี “อีสานพิมานกรุ๊ป” สร้างผลงานกว่า 89 โครงการ สร้างชื่อเสียงจนประสบความสำเร็จกับยอดขายบ้านและที่อยู่อาศัยกว่า 8,000 ยูนิต ทั้งในจังหวัดขอนแก่นและต่างจังหวัด เช่น อุดรธานี ร้อยเอ็ด และลำพูน ซึ่งมีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม จนขึ้นแท่นเป็นบริษัทอสังหาฯอันดับต้นของขอนแก่น ภายใต้การบริหารงานของคุณชาญณรงค์ บุริสตระกูล กรรมการผู้จัดการบริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด และนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดขอนแก่น

ทั้งนี้ ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2561 อีสานพิมานกรุ๊ปเตรียมเงินลงทุนกว่า 650 ล้านบาท ลงทุนโครงการใหม่อีก 6 โครงการ แยกเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ และแนวราบ 4 โครงการ กระจายอยู่ในเขตตัวเมืองขอนแก่น

โดยโครงการคอนโดมิเนียมที่จะลงทุนเพิ่ม 2 แห่ง งบประมาณ 300 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการนอร์ธ พาร์ค คอนโด ที่เตรียมเปิดเพิ่มอีก 220 ยูนิต ขนาด 31 ตารางเมตร ราคา 1.2-2 ล้านบาท เป็นโครงการขยายต่อจากโครงการเดิมที่ดำเนินการขายเรียบร้อยแล้ว โดยตั้งอยู่ที่บ้านโนนม่วง หลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ 2.โครงการซิตี้พาร์คคอนโด ทั้งหมด 210 ยูนิต ขนาด 31 ตารางเมตร ราคา 1-1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ถนนชาตะผดุง หลังศูนย์อนามัยแม่และเด็ก ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น และมหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอนแก่น โดยทั้ง 2 โครงการเจาะกลุ่มนักศึกษา คนเริ่มทำงานใหม่ และคนทำงานในตัวเมืองขอนแก่น ระดับเงินเดือนประมาณ 15,000-20,000 บาท

ขณะที่การลงทุนแนวราบมีทั้งหมด 4 โครงการ งบประมาณ 350 ล้านบาท มุ่งเน้นโซนชุมชนและโครงการเก่าของอีสานพิมานกรุ๊ป ในเขตอำเภอเมืองขอนแก่น ได้แก่ 1.โครงการคานารี่ หนองไผ่ เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวประมาณ 80 ยูนิต ราคา 2.7-3.7 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น 2.โครงการบ้านเดี่ยว ทั้งหมด 100 ยูนิต ตั้งอยู่ที่บ้านโนนทัน อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งแยกเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ราคา 2.7 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวสองชั้น ราคา 3.5 ล้านบาท เจาะกลุ่มข้าราชการเป็นส่วนใหญ่ 3.โครงการพิมานชล เป็นทาวน์เฮาส์ชั้นเดียวและบ้านเดี่ยวชั้นเดียวทั้งหมด 70 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 1.99-3.5 ล้านบาท ตั้งอยู่ริมบึงแก่นนคร อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งโครงการนี้จะเน้นการดีไซน์เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคต และกลุ่มที่เห็นความสำคัญเรื่องสุขภาพ สังคม และอนาคต และ 4.โครงการทาวน์เฮาส์ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ทั้งหมด 200 ยูนิต รองรับโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหาทำเลในการลงทุน

โครงการทั้งหมดของ อีสานพิมานกรุ๊ป

โครงการบ้านเดี่ยว

โครงการคอนโด

วันนี้เราอยากชวนทุกท่านมาทำความรู้จักกับทีมงานที่อยู่เบื้องหลังการบริหารงานก่อสร้างโครงการต่างๆของ อีสานพิมานกรุ๊ป กับบทสัมภาษณ์คุณณรงค์ ดอกคำ หรือคุณยอด จากบริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด ที่ได้มาร่วมพูดคุยถึงเรื่องราวการทำงาน 6 ปีในสายอสังหาริมทรัพย์ ตลอดระยะเวลากว่า 6 ปีที่ได้มาร่วมงานกับบริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด

รบกวนแนะนำตัวหน่อยค่ะ ^^

ผมชื่อ ยอด นะครับ อยู่บริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป ปีนี้เป็นปีที่ 6 แล้วครับ จบปริญญาตรี สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แล้วก็มาต่อ MBA ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น พอจบ MBA ประมาณปลายปี 56 ก็ทำงานกับคุณชาญณรงค์ บุริสตระกูล กรรมการผู้จัดการบริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาครับ

ปัจจุบันคุณยอดทำหน้าที่อะไร

หน้าที่หลักๆตอนนี้ก็จะรับผิดชอบเกี่ยวกับการขอสินเชื่อโครงการใหม่ เวลาที่เราจะขึ้นโครงการใหม่ เราต้องมีการเขียน Project Feasibility ต่างๆ เพื่อยื่นขอสินเชื่อกับทางธนาคารครับ แต่ถ้ามีเวลาว่างจริงๆผมก็จะมีการเขียนโปรแกรมที่ใช้ภายในสำนักงาน ก็พอเขียนได้ครับ แต่ก็ยังไม่ Advance มากนัก

ช่วยเล่าเรื่อง โปรแกรม ที่เขียนใช้เองให้เราฟังหน่อย

เราเขียน โปรแกรม ใช้เองมาประมาณ 2 ปีครับ แต่ผมก็เขียนบ้างไม่เขียนบ้าง เพราะไม่ค่อยว่าง ทำให้เกิดปัญหาเวลาจะพัฒนาต่อมันต้องรอให้ผมว่างก่อน ผมจึงจะพัฒนาต่อให้ได้ โปรแกรมที่ผมเขียนใช้เกี่ยวกับการอัพเดทงานก่อสร้าง บันทึกต้นทุนของผังนั้นๆ เช่น โครงการโนนทัน 9 ผัง A เพื่อที่จะได้รู้ว่า งานนี้มีการจ้างไปแล้วกี่บาท ทำเรื่องจ่ายไปแล้วกี่บาท นี่คือโปรแกรมตัวที่ 1 ผมเรียกมันว่า “ระบบบริหารงานก่อสร้าง” คนที่ใช้โปรแกรมเป็นฝ่ายก่อสร้างที่อยู่หน้างานครับ

โปรแกรม ที่ 2 เป็นโปรแกรมเกี่ยวกับฐานข้อมูลลูกค้า เราเรียกว่า “PGMS” ใช้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการทำสัญญาลูกค้า และประวัติของลูกค้า เดิมทีจะทำทั้งบริหารงานก่อสร้างและเก็บข้อมูลลูกค้าด้วย แต่หน้างานไม่สะดวกในการใช้งาน ก็เลยใช้แค่การเก็บข้อมูลลูกค้าเท่านั้น แล้วทำ Pay-in เรียกเก็บรายเดือนกับลูกค้า

บริษัทเราจะแบ่งบัญชีเป็น 2 ฝ่าย คือบัญชีลูกค้ากับบัญชีการเงินครับ คนที่ใช้โปรแกรมนี้จึงเป็นฝ่ายบัญชีลูกค้า โดยเขาจะเข้ามาบันทึกรายละเอียดการจ่ายเงินของลูกค้าและทุกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า โปรแกรมตัวนี้เราจ้าง Outsource ครับ ซึ่ง Outsource ที่เราจ้างก็มีความอินดี้มาก พอทำไปสักพักหนึ่ง คนออกกันหมด ทีมแตก ก็เลยไม่ได้พัฒนาต่อ เวลามีบัค มีอะไรเราก็โดนกันเอง 55

โปรแกรม ที่ 3 เป็นโปรแกรม “วิเคราะห์สินเชื่อลูกค้า” โดยจะดึงข้อมูลมาจากทั้งโปรแกรมที่ 1 แล้วก็โปรแกรมที่ 2 เวลาลูกค้ายื่นสินเชื่อเนี่ย เขาก็จะบันทึกว่าลูกค้าคนนี้ยื่นที่แบงค์ไหนบ้าง สเตตัสการยื่นสินเชื่อของแต่ละแบงค์เป็นอย่างไรบ้าง สุดท้ายเราก็จะนำข้อมูลมาดูว่า ตั้งแต่วันที่ยื่นสินเชื่อจนถึงวันที่ลูกค้าได้รับอนุมัติใช้ระยะเวลาประมาณกี่วัน แบงค์ไหนที่ทำงานช้า แบงค์ไหนทำงานเร็ว เราสามารถส่งรายงานนี้ไปให้แบงค์ดูได้ว่า คุณทำงานช้านะ ปรับปรุงหน่อย เพราะสิ่งนี้จะมีผลต่อเวลาของเราด้วย เราก็ต้องการที่จะเร่งรัดแบงค์อนุมัติสินเชื่อเร็ว เพื่อที่เราจะได้มีเงินเข้ามาหมุนเร็วขึ้น โปรแกรมตัวนี้ คุณบอล ที่เป็น InHouse ของเราที่พัฒนาเอง แต่จริงๆคุณบอลทำงานเป็น Online Marketing ครับ แต่เวลาว่างก็ทำมาพัฒนาด้วยกันกับผม

ส่วน โปรแกรม ตัวที่ 4 “สรุปยอดวันโอน” เวลาลูกค้าโอเคแล้ว นัดโอนปุ๊ป เราก็จะมีการสรุปยอดกัน เพื่อที่จะได้รู้ว่าวันโอนลูกค้าต้องจ่ายเงินกี่บาท มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เช่น ค่าภาษี ค่าธรรมเนียมการโอนต่างๆ คนที่ใช้โปรแกรมนี้จะเป็นฝ่ายนิติกรรมแล้วก็ฝั่งบัญชีลูกค้า บัญชีลูกค้าก็จะเป็นคนสรุปยอด นิติกรรมก็จะไปแจ้งลูกค้าว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในวันโอน โปรแกรมนี้ถูกพัฒนาโดยน้องอีกคนนึงที่เคยทำงานที่นี้ แต่ตอนนี้ออกไปแล้ว เวลามีปัญหาอะไรก็แก้ยาก และไม่ได้พัฒนาต่อ

โปรแกรมที่ 5 “Easy Acc” เป็นการบันทึกต้นทุนทางบัญชีต่างๆ ที่ฝ่ายบัญชีองค์กรขนาดเล็กส่วนใหญ่ใช้กัน แต่ Easy Acc มีปัญหาอย่างหนึ่ง คือ ไม่สามารถดูรายงานบางตัวที่มัน Link เข้าหากันได้ สมมุติว่ามีการส่งงานเข้ามาปั๊ป ทางนี้จะไม่รู้ว่าต้นทุนที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นไปแล้วเท่าไหร่ แล้วเหลืออีกเท่าไหร่ ที่สามารถใช้ได้ ทำให้เราไม่สามารถพยากรณ์อนาคตได้ของโครงการนั้นได้ ฝ่ายที่ใช้คือ บัญชีภาษีครับ

พัฒนาโปรแกรมใช้เองภายในองค์กร เจอปัญหาอะไรไหมคะ

ปัญหาที่เราเจอตอนนี้ คือ แต่ละตัวมีการพัฒนาแยกกัน เวลาที่จะเอาข้อมูลจากทั้ง 5 โปรแกรมมารวมกัน ไม่สามารถเอามารวมกันได้เลย ต้อง Save เป็นไฟล์ Excel ออกมาจากโปรแกรมแต่ละตัว เราต้องเอาไฟล์ Excel ทั้งหมด 5 ไฟล์ มารวมกัน จึงจะได้รายงานที่มีข้อมูลทั้ง 5 โปรแกรมเชื่อมโยงกัน การทำอย่างนี้ ทำให้เสียเวลา ทำงานซ้ำซ้อน แล้วก็ไม่สามารถบอกหรือคาดการณ์อนาคตได้ว่า อนาคตบริษัทเราจะมีรายได้เข้ามาเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่  รายงานที่เรามีอยู่ ณ ตอนนี้เป็นแค่ตัวเลขคร่าวๆ ไม่ค่อยแม่นยำมากนัก ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ

ทำไมรายงานที่มีตอนนี้ ถึงไม่ค่อยแม่นยำ และขาดความน่าเชื่อ

มันเป็นเพราะ 1. ข้อมูลแต่ละโปรแกรมไม่ Link กัน 2. ข้อมูลที่เราใช้ ๆ กัน บางทีพนักงานบันทึกข้อมูลมาไม่ครบ เช่น ใบ PO เราคุยกันเรื่องการจัดซื้อวัสดุ PO เรายังไม่รู้เลยว่าใบ PR ที่หน้างานเปิดมามีทั้งหมดกี่ใบ ออก PO ไปกี่ใบ แล้ว PO นั้นจ่ายเงินไปแล้วกี่บาท ทำให้ไม่สามารถรู้ได้ว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเท่าไหร่ และที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเท่าไหร่  ผมคิดว่าถ้าเรามี โปรแกรม พจมาน 2 เข้ามาช่วย จะทำให้เราสามารถ คาดการณ์ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างแม่นยำ เห็นต้นทุนที่ชัดเจนในแต่ละโครงการ สามารถเตรียมค่าใช้จ่าย เตรียมรายได้ของเรา เพื่อให้ Support กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้

สรุปภาพการทำงานด้วย 5 โปรแกรมของ อีสานพิมานกรุ๊ป

เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจเลือกใช้ โปรแกรม พจมาน 2

ผมมองว่า โปรแกรม พจมาน 2 มีข้อดี 1.การพัฒนาพัฒนาอยู่ตลอด ไม่ทอดทิ้งลูกค้าไปไหน จะอยู่กับลูกค้าไปตลอด 2. เรื่องของค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลกับขนาดองค์กรของเรา เพราะเราไม่ใช่องค์กรขนาดใหญ่ การที่เราจะซื้อโปรแกรมอะไรเข้ามาใหม่ เราต้องดูว่าสิ่งที่ได้รับกับเงินที่จ่ายไปคุ้มค่ากันหรือไม่ ซึ่งผมว่าค่าใช้จ่ายของโปรแกรมพจมาน 2 อยู่ในกลุ่มที่เราสามารถจ่ายได้ เวลามีปัญหา สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา

คาดหวังอะไรจากการเลือกใช้ โปรแกรม พจมาน 2

โปรแกรม พจมาน 2 เข้ามาช่วยแก้ปัญหาปัจจุบันเรื่องของการนำเข้าข้อมูลต่างๆ การวางแผนจัดซื้อ จัดจ้าง และบัญชี สามารถออกรายงานประจำเดือนที่เราต้องการได้ สามารถนำรายงานที่ได้จากระบบไปจัดทำยื่นภาษีประจำปีต่อได้ บัญชีปิดงบได้รวดเร็ว

ความคาดหวังสุดท้ายคือ โปรแกรมต้องช่วยงานเราได้ จัดการในองค์กรได้ แล้วก็งานที่เคยทำซ้ำๆกันต้องลดลง รายงานที่ได้ต้องบอกเราได้ว่าอนาคตเราจะดีหรือแย่ยังไง แล้วทุกคนจะ Happy ในการทำงาน เพราะทุกคนทำงานเท่าเดิมหรือทำงานน้อยลง แต่งานที่ออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้น

การพัฒนาโปรแกรมเพื่อใช้เองภายในบริษัท คุณอาจจะได้โปรแกรมที่ตรงตามความต้องการและเหมาะกับบริษัทของคุณ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป เทคโนโลยใหม่ขึ้น ความต้องการเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีทีมงานที่จะพัฒนาต่อ แม้จะจ้างบริษัท Outsource ทำ ก็ยังไม่แล้วโดนเท เจอปัญหาอะไรไปก็ต้องแก้ไขกันเอง

ดังนั้นเราควรใช้บริการจากผู้พัฒนามืออาชีพที่เก่งเรื่องก่อสร้าง และมีการพัฒนาโปรแกรมตลอดเวลา อัพเดตเทคโนโลยีใหม่ที่สุดให้คุณได้ใช้อยู่เสมอ ไม่ทอดทิ้ง มีปัญหาสามารถปรึกษาได้ตลอดเวลา อย่างเช่น โปรแกรม พจมาน 2

Pojjaman 2 x PLOY คูณสองรับยุคดิจิทัล

เนื่องจากอีสานพิมานกรุ๊ป เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ใช้โปรแกรม พจมาน 2 เป็นระบบบริหารงานต้นทุนโครงการ ควบคุมในส่วนของงาน จัดซื้อ-บัญชี-การเงิน และสินค้าคงคลัง ดูแลในส่วนของงานหลังบ้าน ในส่วนของงานขาย ได้ใช้โปรแกรมพลอย โปรแกรมจัดการงานขายโครงการ บ้าน คอนโด  และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า 

โปรแกรมพจมาน 2 กับ โปรแกรมพลอย จะมีการรับส่งข้อมูลรายละเอียดยูนิตต่างๆ, ราคาขาย, รายละเอียดการผ่อนชำระ และค่าใช้จ่ายต่างๆที่เราต้องเรียกเก็บจากลูกค้าในวันโอนกรรมสิทธิ์ ทำให้มีการอัพเดตสเตตัสแบบ Real Time บริษัทอสังหาฯสามารถทำงานได้สะดวก รวดเร็ว ดูข้อมูลการขายควบคู่กับข้อมูล Budget ในแต่ละยูนิต เพื่อวิเคราะห์กำไรในแต่ละยูนิตได้ชัดเจน

ภาพตัวอย่างการทำงานเชื่อมกันระหว่าง Pojjaman 2 x PLOY

Dashboard สรุปรายละเอียดต่างๆของโครงการ ทั้ง Unit และ ฝั่งลูกค้า จาก โปรแกรมพลอย

รูปแบบผังของโครงการ ที่สามารถเปิดให้ลูกค้าเห็น แสดง Unit ที่ว่าง และ Unit ที่ได้ทำการจองเรียบร้อยแล้ว

แสดงสถานะการจ่ายชำระ และสถานะการก่อสร้างของแต่ละ Unit 

ดึงข้อมูล Unit จาก โปรแกรมพลอย เข้าสู่ พจมาน โดยสามารถควบคุม Budget แยกตาม Unit ของโครงการได้

ลงรายละเอียดการแบ่งรับชำระ, งวดการรับชำระของแต่ละ Unit พร้อมอัพเดตสถานะการรับชำระแบบ Real Time

ดึงข้อมูลการชำระต่างๆของแต่ละ Unit จากโปรแกรมพลอย มาทำการบันทึกบัญชีในโปรแกรมพจมาน 2
โดยสามารถทำพร้อมๆกันได้มากกว่า 1 รายการ

“Pojjaman 2” ERP ก่อสร้าง บนระบบ Could 100%

“พจมาน 2” โปรแกรมบริหารงานก่อสร้างที่ออกแบบเฉพาะสำหรับ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เน้นควบคุมงบประมาณ และ กำไร ของโครงการได้ครบถ้วน สามารถจัดการระบบบริหารงานต่าง ๆ ได้เทียบเท่า ERP ระดับโลก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้งานผ่านระบบ Cloud ERP 100% ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ใช้โปรแกรมได้จากทุกที่ที่มีอินเตอร์เน็ต

โปรแกรมบริหารงานก่อสร้าง พจมาน 2 รูปแบบใหม่

ขอเดโม่โปรแกรมพจมาน 2 ที่นี่

Pojjaman 2 ตอบโจทย์ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั้งขนาดกลาง-ขนาดใหญ่

ENTERPRISE PACKAGE

เหมาะสำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขนาดกลาง – ใหญ่ที่ต้องการระบบ ERP เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์

    • วางระบบพร้อมใช้งานใน 6 เดือน
    • Support ระบบบัญชี และระบบควบคุมภายในเพื่อเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์
  • สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับธุรกิจก่อสร้างประเภทต่าง ๆ และอสังหาริมทรัพย์

ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท

SMART PACKAGE

เหมาะสำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง SMEs ที่ต้องการระบบบัญชีและระบบควบคุมต้นทุน เพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับการเติบโตของธุรกิจ

  • ใช้งานง่าย ได้ครบทุกฟังก์ชั่น บัญชี ควบคุมต้นทุน จัดซื้อ
  • อบรมการใช้งาน 1 สัปดาห์ พร้อมคอร์สเรียนออนไลน์และซัพพอร์ตออนไลน์
  • ลงทุนเริ่มต้นเพียงแสนกว่าบาท ชำระค่าบริการระบบ Cloud และ Software เป็นรายเดือน

ราคาเริ่มต้น 22,000 บาท/เดือน

ขอเดโม่โปรแกรมพจมาน 2 ที่นี่

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้ที่นี่เลยค่ะ ^^

พจมาน 2 คืออะไร

“พจมาน 2” โปรแกรมบริหารงานก่อสร้างที่ตอบโจทย์ทุกฝ่าย

ทำไมต้อง “พจมาน 2”

ปรับแนวคิด เดินหน้าธุรกิจรับเหมาด้วย โปรแกรมบริหารงานก่อสร้าง

อ่านบทความทั้งหมด คลิกเลย

X