แนวโน้มเศรษฐกิจธุรกิจ รับเหมาก่อสร้าง ในปี 2562
แนวโน้มธุรกิจ รับเหมาก่อสร้าง ในปีนี้คาดการณ์ว่าจะเติบโตมากขึ้นโดยมี Mega Project ของภาครัฐเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าปีที่แล้วโครงการต่างๆของภาครัฐค่อนข้างเติบโตช้าและชะลอตัวบ้าง แต่ปีนี้คาดการณ์ว่าโครงการต่างๆของภาครัฐมีแนวโน้มเติบโต 7% และในภาคเอกชนเติบโตถึง 3-4% จากภาพรวมจะพบว่ามีแนวโน้มที่เติบโตไปในทิศทางเชิงบวกทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่่งส่วนสำคัญที่ส่งผลในการเติบโตของธุรกิจ รับเหมาก่อสร้าง มีดังนี้
ปีทองของการลงทุนของธุรกิจ ” รับเหมาก่อสร้าง “
ปีนี้เป็นปีทองในการลงทุน จากการคาดการณ์ของนักวิชาการ Prof.Philippe Gugler ผู้อำนวยการศูนย์กลางการศึกษาเพื่อขีดความสามารถในการแข่งขันในมหาวิทยาลัยไฟร์บวร์ก ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เปิดเผยข้อมูลว่า ศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยเป็นไปในทิศทางเชิงบวกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความน่าสนใจลงทุนอย่างมาก โดยมีการเติบโตจากตัวการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ทศวรรษที่ผ่านมา แม้ว่ามีวิกฤตการณ์ในระดับโลก โดยหากจะพิจารณาจากรายงานขีดความสามารถในการแข่งขันของโลกหรือ Global Competitiveness Report (GCR) จะเห็นได้ว่ามีเพียง 3 ประเทศในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ไม่สูง ซึ่งอยู่ใน 40 ประเทศทั่วโลก (จากยอดรวมกว่า 140 ประเทศ) ที่มีขีดความสามารถการแข่งขันที่ดีมาก
ภาครัฐขยายตัวจาก Mega Projects
โครงการรับเหมาก่อสร้าง ปี 2562 มาพร้อมกับการเริ่มโปรเจ็กต์ยักษ์ใหญ่ที่จะมาเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ขับเคลื่อนไปสู่อนาคต โดยข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่าในปี 2562 การเลือกตั้งและการดำเนินงานของรัฐบาลชุดใหม่ไม่ส่งผลกระทบในการดำเนินโครงการต่างๆ ของ Mega Projects ซึ่งถือว่าปัจจุบันได้เริ่มต้นตอกเสาเข็มโครงการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้ผู้ชนะการประกวดราคาสามารถเป็นไปตามคาดการณ์ไว้ และคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าโครงการก่อสร้าง Mega Projects อีกจำนวนมาก
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนใน 4 โครงการที่เป็นโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่
-
- โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา) วงเงินลงทุน 2.2 แสนล้านบาท
-
- โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 วงเงินลงทุน 8.4 หมื่นล้านบาท
-
- โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก วงเงินลงทุน 2.7 แสนล้านบาท
- ท่าเรือมาบตาพุด
เอกชนรายใหญ่ยังคงครองตลาด
จากการคาดการณ์ของนายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมของโครงการก่อสร้างในธุรกิจพาณิชยกรรมปีนี้ เชื่อว่ามีการแข่งขันในตลาดกว่า 70% ยังคงเกิดจากผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีความพร้อมทางด้านการเงิน และทรัพยากรบุคคล ผู้ประกอบยุคใหม่ต้องวางแผนระยะยาวให้เป็น โจทย์สำคัญในปีนี้ คือ การกำหนดสินค้าและราคาขายที่สอดคล้องกับความสามารถในการซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ได้จริงของลูกค้า
เอกชนรับผลดีจากตลาดที่อยู่อาศัย
จากปัจจัยหนุนก่อสร้างภาครัฐปีนี้ ในเรื่องของการดำเนินงานของ Mega Projects และ การพัฒนาโครงการพื้นฐาน ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้รับผลดีจากการรับเหมาช่วงเพิ่มขึ้นจากกลุ่มเอกชนขนาดใหญ่ที่เป็นผู้ชนะจากการประกวดราคา และในโครงการภาครัฐขนาดเล็กมีการขยายตัวจากนโยบายไทยนิยมยั่งยืนที่มีมูลค่าโครงการไม่มากนักจึงเป็นโอกาสที่ดีมากที่จะเข้าไปรับงาน ก่อสร้างด้วยตนเองโดยเฉพาะพื้นที่ท้องถิ่นหรือใกล้เคียง
ในโครงการที่เริ่มต้นจากปีที่ผ่านมาทำให้เห็นแนวโน้มธุรกิจก่อสร้างได้ชัดว่าเป็นไปในทิศทางบวก เป็นโอกาสอันดีที่ผู้รับเหมารายย่อยทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอาจจะได้มีส่วนร่วมในโครงการใหญ่และได้โอกาสในการทำงานโครงการเล็กมากขึ้น สิ่งที่อยากแนะนำผู้ประกอบการทุกท่านคงจะเป็นการเตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานที่จะเกิดขึ้นจากโครงการขนาดใหญ่ (Mega Projects) และการเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่ต้องเพิ่มศักยภาพในการทำงานกับเทคโนโลยีให้มากขึ้น อย่างโปรแกรมบริหารงานก่อสร้างของ พจมาน 2 เองที่จะเข้ามาช่วยในการควบคุมต้นทุนให้แม่นยำ ง่าย สะดวก และการประสานงานในองค์กรให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาไปพร้อมกับการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเป็นเลิศในธุรกิจก่อสร้างได้อย่างยั่งยืน
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้ที่นี่เลยค่ะ ^^
“พจมาน 2” โปรแกรมบริหารงานก่อสร้างที่ตอบโจทย์ทุกฝ่าย
ปรับแนวคิด เดินหน้าธุรกิจรับเหมาด้วย โปรแกรมบริหารงานก่อสร้าง
อ่านบทความทั้งหมด คลิกเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://bit.ly/2BGhfQN , https://bit.ly/2NdG1fj , https://bit.ly/2V5L5oL