ระบบ Cloud เป็นระบบที่นิยมใช้กันอย่างมากทั่วโลก และเป็นระบบที่มีความน่าเชื่อถือและทันสมัยที่สุด แต่จริง ๆ แล้วคืออะไรกันแน่ มีความเป็นมาอย่างไร และระบบทำงานทำอย่างไร วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน
Cloud ถ้าแปลตรงตัวก็คือ เมฆหรือก้อนเมฆ แต่ในวงการไอทีนั้น Cloud หรือ Cloud Datacenter เป็นคำเปรียบเปรยสำหรับศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ ซึ่งจริงๆแล้วคือ “เทคโนโลยีที่เริ่มต้นมาจากการทำ Virtualization เป็นพื้นฐาน และถูกพัฒนาขึ้นจนให้ผู้ใช้งานสามารถให้บริการตัวเองได้ ( Self-service)” หรือถ้าพูดให้ง่ายขึ้นก็คือระบบที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการติดตั้งระบบนั้นเอง
ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานต้องการลง server, destop หรือ application ต่าง ๆ ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ ต้องเสียเวลาในการลง/ติดตั้ง หรือต้องติดต่อ ฝ่าน IT เพื่อดำเนินการให้ ในขณะที่บริษัทที่มีขนาดใหญ่ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากในการลงระบบให้กับทุกเครื่องของพนักงานทุกฝ่าย ซึ่งนี้แหละคือจุดเด่นที่ Cloud เข้ามาแก้ปัญหานี้ได้ และสามารถทำงานได้ราบลื่นไม่มีกระตุกอีกด้วย
ระบบ Cloud มีทั้งหมด 3 ประเภทดังนี้
1. Private
คือ องค์กรแต่ละองค์กรจะตั้ง Hardware และ Software ที่ใช้เป็นพื้นฐานในการทำ Cloud Datacenter ขึ้นมาเป็นของตัวเอง เพื่อให้แต่ละแผนกในองค์กรสามารถเข้ามาขอใช้งานได้
2. Public
คือ ผู้ให้บริการ หรือ Third-Party จะเป็นคนตั้ง Hardware และ Software ขึ้นมา และให้แต่ละองค์กรเข้าไปเช่าใช้บริการ อาจจะจ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปี เช่น Microsoft Azure, vCloud Air
3. Hybrid
คือ การรวมกันระหว่าง Private Cloud และ Public Cloud ซึ่งเพิ่มความหยืดหยุ่นในการจัดการได้มากขึ้นและอุดข้อเสียของทั้ง 2 รูปแบบนั้นได้
ระบบ Cloud มีประโยชน์อะไรบ้าง ?
1. ความสามารถในการขยายสูง (Scalability)
เป็นระบบที่รองรับการขยายได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มข้อมูล ความจำ ความจุCPU หรือการเก็บ Storage ของฐานข้อมูลต่างๆ และสามารถเพิ่มได้ทันทีเพียงปลายนิ้วสัมผัส
2. ความรวดเร็วในการปรับตัวเพื่อตอบสนองธุรกิจ (Speed & Agility)
เป็นระบบที่รวดเร็วมาก ไม่ต้องมีการติดตั้งโปรแกรมอะไรทั้งสิ้น ทั้งยังสามารถใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ในทุกๆเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ มือถือ ต่างๆที่สามารถเข้าอินเตอร์เน็ตได้
3. ค่าใช้จ่ายต่ำกว่า (Lower Cost)
เป็นระบบที่คิดราคาตามจำนวนที่ใช้ ทำให้ค่าใช้จ่ายเป็นราคาที่เหมาะสมกับโครงการของธุรกิจของคุณ
4. การพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Development and Continuous Delivery)
เนื่องจากเป็นระบบที่มีความนิยมสูงมาก และใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้เป็นระบบที่มีผู้พัฒนาอยู่มาก เพื่อทำให้ระบบนั้นดีขึ้น เร็วขึ้น และสามารถทำอะไรใหม่ได้ตลอดเวลาอยู่เสมอ
“พจมาน 2” ERP ก่อสร้าง บนระบบ Could 100%
“พจมาน 2” โปรแกรมบริหารงานก่อสร้างที่ออกแบบเฉพาะสำหรับ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
เน้นควบคุมงบประมาณ และ กำไร ของโครงการได้ครบถ้วน สามารถจัดการระบบบริหารงานต่าง ๆ ได้เทียบเท่า ERP ระดับโลก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้งานผ่านระบบ Cloud ERP 100% เนื่องจากระบบ Cloud เป็นระบบที่ ทันสมัย รวดเร็ว ปลอดภัย และผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ง่าย และสามารถทำงานออนไลน์ได้
โปรแกรมบริหารงานก่อสร้างออนไลน์ (ERP ก่อสร้าง) “พจมาน 2” ระบบที่โฟกัสกำไรของคุณอย่างแม่นยำ ซึ่งจะมาเปลี่ยนวิธีบริหารธุรกิจรับเหมา จัดการระบบบัญชีงานก่อสร้างให้ดียิ่งขึ้น มีการทำงานที่สะดวก รวดเร็ว เหมาะกับงานด้านธุรกิจรับเหมาโดยเฉพาะ ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง และมาฉีกข้อจำกัดการทำบัญชีแบบเดิม ๆ ที่ไม่สามารถทำได้โดยโปรแกรมบัญชีก่อสร้างแบบทั่วไป
ขอเดโม่โปรแกรม พจมาน 2 ฟรี !! คลิกเลย
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้ที่นี่เลยค่ะ ^^
“พจมาน 2” โปรแกรมบริหารงานก่อสร้างที่ตอบโจทย์ทุกฝ่าย
ปรับแนวคิด เดินหน้าธุรกิจรับเหมาด้วย โปรแกรมบริหารงานก่อสร้าง
อ่านบทความทั้งหมด คลิกเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก: http://blog.onestopware.com, www.g-able.com