Loading

นโยบายความเป็นส่วนตัว Builk One Group

บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด (“บริษัท”) รับประกันแก่ท่านว่า บริษัทให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัวและเคารพสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าของบริษัท ดังนั้น บริษัท ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจึงมีจุดประสงค์จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) ที่กำหนดเกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผล และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะลูกค้าที่ติดต่อมายังบริษัท และ/หรือเช่าใช้บริการ หรือซื้อซอฟต์แวร์ประเภทต่าง ๆ ของบริษัท (“ลูกค้า”) เพื่อแจ้งให้ลูกค้าทราบ

การยอมรับนโยบาย

นโยบายฉบับนี้ใช้สำหรับการติดต่อ และ/หรือการเช่าใช้บริการซอฟต์แวร์ของบริษัทโดยตรงเท่านั้น โดยไม่มีผลใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกอื่นที่บริษัทไม่มีอำนาจควบคุม (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ตัวแทนจำหน่าย หรือพันธมิตรการค้าอื่นของบริษัท) แม้จะดำเนินการเชื่อมต่อกับการให้บริการของทางบริษัท ซึ่งสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกดังกล่าว ลูกค้าต้องศึกษาเกี่ยวกับนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บุคคลภายนอกดังกล่าวแยกจากนโยบายฉบับนี้

ทั้งนี้ เมื่อลูกค้าติดต่อมายังบริษัทผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสาร เช่น ผ่านการลงทะเบียน demo ผ่านเว็บไซต์ หรือการติดต่อสื่อสารผ่าน Social Media เช่น Facebook / Line Official Account เป็นต้น และส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท ทางบริษัทจะถือว่า ลูกค้าตกลงและยอมรับนโยบายฉบับนี้แล้ว

ทางบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรูปแบบการติดต่อ การให้บริการต่างๆ ของบริษัทที่ให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อของบริษัท โดยการที่ลูกค้ายังคงมีบัญชีผู้ใช้งาน และยังใช้บริการของบริษัทอย่างต่อเนื่องภายหลังจากการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าว บริษัทจะถือว่า ลูกค้าตกลงยอมรับตามนโนบายฉบับปรับปรุงแล้วเสมอ

นิยามศัพท์

ภายใต้นโยบายฉบับนี้ (ก) ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลธรรมดาคนหนึ่งนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม และ (ข) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทมีการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงลูกค้าซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา และตัวแทนผู้มีอำนาจลงนาม หรือบุคคลเกี่ยวข้องอื่นของลูกค้าที่เป็นนิติบุคคล (เช่น กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม หรือผู้รับมอบอำนาจที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พนักงานหรือตัวแทนใดของลูกค้าที่อาจได้รับการแต่งตั้งมอบสิทธิในการใช้ระบบซอฟต์แวร์ของบริษัท เป็นต้น)

ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย กรณีที่ลูกค้านำส่งข้อมูลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องของลูกค้าให้แก่บริษัท เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ทางบริษัทจะถือว่า ลูกค้าได้ให้การรับประกันสิทธิในการส่งต่อเปิดเผยข้อมูลของบุคคลภายนอกทั้งหมดให้แก่ บริษัทเพื่อการประมวลผลข้อมูลภายใต้นโยบายฉบับนี้แล้ว

แหล่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล

บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และ/หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจาก 2 แหล่งที่มา ดังนี้

1. ได้รับโดยตรงจากลูกค้า ซึ่งนำส่งมายังบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ (ก) การติดต่อสอบถามผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมี ได้แก่ โทรศัพท์ Social Media และ/หรือ Website (ข) การเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ โดยระบบของบริษัทที่อาจเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ (ค) การที่ลูกค้าเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ หรือ (ง) การที่ลูกค้ากรอก นำส่งข้อมูล รวมถึงเอกสารแบบฟอร์มอื่นใดเพื่อการใช้บริการสนับสนุนต่าง ๆ ของบริษัท

2. ได้รับจากบุคคลอื่น ซึ่งอาจรวมถึง ตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ให้บริการภายนอกที่บริษัทได้ว่าจ้างเข้ามาเกี่ยวข้องกับการขายสินค้าและให้บริการของบริษัท หรือบุคคลอื่นที่อาจแนะนำท่านมายังบริษัท ซึ่งบริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบ

ข้อมูลที่มีการประมวลผล

ในการติดต่อประสานงาน การนำเสนอซอฟต์แวร์ และการให้บริการติดตั้งฝึกอบรม รวมถึงการให้บริการสนับสนุนอื่นเกี่ยวเนื่องกับซอฟต์แวร์ ระหว่างบริษัทและลูกค้า บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน ดังต่อไปนี้

1. ข้อมูลการติดต่อของผู้ติดต่อ ได้แก่ ชื่อนามสกุล และข้อมูลการติดต่อของผู้ติดต่อมายังบริษัท เช่น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล หรือ Social Media Account

2. ข้อมูลทางเทคนิค (Online Identifier) ของลูกค้าที่ติดต่อมายังบริษัทผ่านช่องทางเว็บไซต์ ได้แก่ ข้อมูลแหล่งที่ตั้ง รวมถึง IP address และ/หรือ domain name ของลูกค้า และหน้าเพจอื่นๆ ที่ส่งลูกค้ามายังเว็บไซต์ของบริษัท ประเภทและ Version ของ Browser การตั้งค่าระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ของลูกค้า หรือการใช้คุกกี้ (กรณีที่ลูกค้าให้ความยินยอม) ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถศึกษานโยบายคุกกี้ของบริษัทได้เพิ่มเติม

3. ข้อมูลการชำระราคา และ/หรือข้อมูลสำหรับการออกใบกำกับภาษี ซึ่งรวมถึง ข้อมูลการชำระเงินค่าบริการเช่าใช้ซอฟต์แวร์ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลบัตรเครดิต เลขบัญชีธนาคาร รวมถึงหลักฐานการชำระเงินอื่น และในกรณีการขอออกใบกำกับภาษี รวมถึงเอกสารแสดงตนรวมถึงสำเนาเอกสารดังกล่าว เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น

4. ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานที่จะเป็นผู้ใช้บริการซอฟต์แวร์ของบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลชื่อนามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์หรือรูปถ่ายลายเซ็น เลขบัญชีธนาคาร และอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงรูปถ่ายและภาพเคลื่อนไหวของพนักงานที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องใช้สำหรับการลงทะเบียนเป็นลูกค้า ทั้งนี้ลูกค้าหรือพนักงานดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงในการกรอกและให้ข้อมูลดังกล่าว ให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผล ดังนั้น ลูกค้าต้องให้การรับประกันความถูกต้องและสิทธิของลูกค้าในการนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าวให้แก่ บริษัทเพื่อประมวลผล

5. ข้อมูลธุรกรรมการใช้งานซอฟต์แวร์ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน เลขรหัสผู้ใช้งาน ข้อมูลการ Log-in ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ และข้อมูลการทำธุรกรรมอื่นที่ลูกค้าหรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง (โดยเฉพาะพนักงานของลูกค้า) ดำเนินการผ่านระบบซอฟต์แวร์ (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลการทำคำสั่งดำเนินธุรกรรมทั้งหมด และข้อมูลประวัติธุรกรรมอื่นเพื่อการตรวจสอบ)

6. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ที่ลูกค้า และ/หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจส่งต่อเปิดเผยระหว่างการติดต่อสื่อสารที่ลูกค้าอาจมีกับบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงเรื่องการร้องเรียน หรือการให้ความเห็นต่าง ๆ หรือการติดต่อเพื่อรับบริการสนับสนุน ผ่าน Help Desk หรือ Customer Support หรือข้อมูลที่ลูกค้าอาจนำส่งให้แก่บริษัทเพื่อการเข้าร่วมกิจกรรม หรือ Campaign ต่าง ๆ และรวมถึงข้อมูลภาพถ่ายหรือ ข้อมูลการให้คำแนะนำเกี่ยวกับบริการและซอฟต์แวร์ของบริษัท

วัตถุประสงค์และระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และ/หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์และเป็นระยะเวลา ดังนี้:

1. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา บริษัทต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อ

§ การตอบคำถาม การตอบกลับ หรือการจัดการข้อร้องเรียนหรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าอาจแจ้งมายังบริษัท รวมถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดต่อกลับเพื่อนำเสนอซอฟต์แวร์ตามที่ลูกค้าร้องขอ Demo และการประสานงานเพื่อปิดการขายดังกล่าว

§ การจัดทำเอกสารการทำธุรกรรมเพื่อการให้เช่าใช้หรือการขายซอฟต์แวร์ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การจัดทำเอกสารทางบัญชี หรือการจัดทำสัญญา (ถ้าเกี่ยวข้อง)

§ การติดต่อประสานงาน และการปฏิบัติสิทธิหน้าที่ที่บริษัทมี ภายใต้เงื่อนไขการให้บริการที่บริษัทประกาศกำหนดสำหรับการเช่าใช้บริการซอฟต์แวร์แต่ละผลิตภัณฑ์ของบริษัท (รวมถึงสัญญาการให้บริการอื่น) ระหว่างบริษัทและลูกค้า ซึ่งรวมถึง การติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ การเริ่มเปิดบัญชีผู้ใช้งานให้แก่ลูกค้า และ/หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง การฝึกอบรมการใช้งานระบบซอฟต์แวร์ การบำรุงรักษาระบบ และ/หรือบริการอื่น ตามที่บริษัทอาจประกาศกำหนด เพื่อให้บริการแก่ลูกค้า

§ การปฏิบัติตามสัญญาอื่นที่ลูกค้าและบริษัท เป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของลูกค้า รวมถึงการพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมในการเข้าร่วมกิจกรรมที่ลูกค้าอาจเข้าร่วม

2. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทต้องดำเนินการ เช่น การจัดทำบัญชีและชำระภาษีของบริษัท โดยเฉพาะกรณีที่ลูกค้าอาจขอใบกำกับภาษีจากบริษัท บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าเพื่อการจัดทำเอกสารดังกล่าว ตลอดระยะเวลาตามกรอบที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด

3. เพื่อการดำเนินการเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่กระทบสิทธิลูกค้า และ/หรือเจ้าของข้อมูลเกินสมควร ได้แก่

§ การสร้างและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับลูกค้า ซึ่งอาจรวมถึงการวิเคราะห์ สอบสวน จัดการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท การสอบถามความพึงพอใจในการให้บริการ การจัดทำรายงานการติดตามตรวจสอบภายในเกี่ยวกับการให้บริการของบริษัทให้แก่ลูกค้า การวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยงภาพรวมของ

องค์กร การฝึกอบรม หรือติดตามการให้บริการของพนักงานของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็น และอาจเก็บข้อมูลในลักษณะของสถิติที่ไม่สามารถระบุตัวตนของลูกค้าต่อเนื่อง

§ การใช้ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ ในการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับลูกค้า รวมถึงการวิเคราะห์ปรับปรุงการให้บริการ การออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงการจัดกลุ่มของลูกค้าเพื่อประโยชน์ในการวางแผนการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ของบริษัท

§ การใช้ข้อมูลภาพถ่ายจากการเข้าร่วมกิจกรรม หรือการให้บริการติดตั้ง รวมถึงฝึกอบรมแก่พนักงานของลูกค้า รวมถึงข้อมูลความเห็นอื่น เพื่อประโยชน์ในการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัท และเพื่อนำเสนอผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารอื่นที่บริษัทอาจมี

§ การเก็บข้อมูลเพื่อประโยชน์การปกป้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ในกรณีเกิดข้อร้องเรียนหรือการต่อสู้ใดระหว่าง บริษัทและลูกค้า

4. ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อวัตถุประสงค์ที่ลูกค้าให้ความยินยอมเฉพาะดังกล่าว เช่น การใช้ข้อมูลเพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้าอื่นของบริษัทหรือของบริษัทในเครือ ซึ่งตรงกับความสนใจของลูกค้า ให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางการติดต่อต่างๆ

ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ซึ่งได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทจะอ้างอิงหลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ดังนี้ (ก) บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทยังมีความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยเฉพาะความสัมพันธ์ภายใต้สัญญาให้เช่าใช้ซอฟต์แวร์หรือการมีบัญชีผู้ใช้งานของลูกค้าในระบบซอฟต์แวร์ของบริษัท (ข) ตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติคุ้มครองสิทธิภายใต้อายุความ สูงสุด 10 ปี (ค) ตลอดระยะเวลาที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายในการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว (ง) ตลอดระยะเวลาที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยรับประกันไม่ให้กระทบสิทธิของลูกค้าเกินสมควร และ (จ) กรณีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยการให้ความยินยอมของลูกค้า บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลไว้เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะที่ลูกค้าให้ความยินยอมดังกล่าวเป็นระยะเวลาตราบที่ลูกค้ายังไม่ได้ถอนความยินยอมนั้น

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้

1. ผู้ให้บริการภายนอกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจรวมถึง (i) ผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการสนับสนุนแก่บริษัท ในการปฏิบัติหน้าที่และใช้สิทธิที่บริษัทอาจมีต่อลูกค้า (ii) ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการที่ปรึกษาต่าง ๆ ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เฉพาะเท่าที่จำเป็น ตามกรอบเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้จัดทำและลงนามร่วมกับผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าว

ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทมีการโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปให้แก่ ผู้ให้บริการที่ดำเนินกิจการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศ บริษัทจะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย

2. หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่หน่วยงานนั้นตามกฎหมาย ตามคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น เช่น กรมสรรพากร เป็นต้น โดยบริษัทจะเปิดเผยส่งต่อข้อมูลเฉพาะเพียงเท่าที่จำเป็นตามหน้าที่ดังกล่าวเท่านั้น

3. กรณีที่ลูกค้าให้ความยินยอม บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่ลูกค้าระบุไว้เป็นการเฉพาะ

มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทรับประกันการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้

ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือติดต่อเพื่อใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามกรอบกฎหมาย

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้ โทรศัพท์ติดต่อ: 02-026-6857 อีเมล: pdpa@builk.com

นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลการใช้คุกกี้

บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด(“บริษัท”) มีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้ในการทำงานหลายส่วนของเว็บไซต์เพื่อรับประกันการให้บริการของเว็บไซต์ที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้บริการเว็บไซต์ของท่าน โดยบริษัทรับประกันว่าจะใช้คุกกี้เท่าที่จำเป็น และมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นกรณีการใช้คุกกี้บางประเภทที่อาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก ทั้งนี้ เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ บริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและตกลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลการใช้คุกกี้ฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาที่บริษัทเห็นสมควร โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์นี้

ประเภทและวัตถุประสงค์การใช้คุกกี้ของบริษัท บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้หลายประเภทเพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังต่อไปนี้

1. Strictly Necessary Cookies ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานให้บริการของเว็บไซต์แก่ผู้ใช้งาน โดยบริษัทจะส่งคุกกี้ไปยังคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์การเชื่อมต่อของท่าน เพื่ออ่านข้อมูลที่เก็บในคุกกี้นั้น เมื่อท่านใช้หรือเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์

2. Functionality Cookies ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์ เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา ฟ้อนต์ และรูปแบบการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้

3. Performance Cookies ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่ประเมินประสิทธิภาพในการทำงานแต่ละส่วนของเว็บไซต์ ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทดังกล่าวอาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก และ

4. Advertising Cookies ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่ใช้เพื่อการนำเสนอสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทนี้อาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก

สำหรับคุกกี้ประเภทอื่นนอกเหนือจาก Strictly Necessary Cookies หากได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะใช้คุกกี้ดังกล่าวเพื่อจุดประสงค์เฉพาะที่ได้ระบุไว้

สิทธิของเจ้าของข้อมูล บริษัทรับทราบ และเคารพสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลตามกฎหมาย โดยเฉพาะสิทธิถอนความยินยอมได้ทางหน้าเว็บไซต์ และท่านสามารถลบการตั้งค่าคุกกี้บน Browser ของตนเองได้เช่นกัน หรือหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อบริษัทได้ที่: 02-026-6857 หรือ pdpa@builk.com