BUILK ผนึก Beacon VC ต่อยอดฐานราก Contech Fintech ลุยพัฒนาแพลตฟอร์มก่อสร้างไทย

จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด : 370

BUILK ONE GROUP ผนึกกำลังกับ Beacon VC บริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย ในรอบ Series B ร่วมกับนักลงทุนเชิงยุทธศาสตร์อีก 3 ราย Adventure by SCG , RoseWood VC และ Cre-Ful เพื่อต่อยอดเทคโนโลยีและบริการทางการเงินเต็มรูปแบบ นำเทคโนโลยีมาพัฒนาประสิทธิภาพในกระบวนการก่อสร้าง และยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างสู่ยุคดิจิทัล และตั้งเป้าเติบโตเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ภายใต้ธีมงาน GRUOND BREAKING CONTECH + FINTECH

“ถ้ากรุงโรมสร้างเสร็จได้ภายในวันเดียว เราก็อยากจะใช้ผู้รับเหมาเจ้านั้นแหละ” เฉกเช่นเดียวกับความสำเร็จ และการเติบโตของ Tech Startup อย่าง BUILK ONE GROUP ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา ที่ยังคงสร้างกรุงโรมอย่างต่อเนื่อง และจะสร้างต่อไปให้แข็งแกร่งและมั่นคง

GRUOND BREAKING CONTECH + FINTECH

BUILK ONE GROUP มีการเตรียมความพร้อม หรือที่เรียกว่าทำการเปิดหน้าดิน (GROUND BREAKING ) มาอย่างต่อเนื่องระยะเวลา 11 ปี เพื่อจะลงเสาเอก เปรียบได้กับเป็นการสร้างความแข็งแกร่งของฐานรากทางธุรกิจ ที่เน้นการพัฒนาทางด้าน Contech และ Fintech สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย

ภูมิคุ้มกันจากภายใน และความยืดหยุ่นของธุรกิจ คือวัคซีนที่ดี

BUILK ONE GROUP เรามีผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมทั้งซัพพลายเชนก่อสร้าง เจ้าของโครงการ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เรามุ่งมั่นในการพัฒนาแพลตฟอร์มที่ช่วยผู้รับเหมาไทยให้มีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การเดินทางของ BUILK ได้รับบทเรียนและประสบการณ์มากมาย เจอทั้งวิกฤตและโอกาสไปพร้อมๆกัน และอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่สำคัญก็คือ โควิด-19 ที่ทำให้ทีมงานทุกคนได้รับวัคซีนที่ดีและเป็นวัคซีน 2 เข็มที่มีประสิทธิภาพ

เข็มแรก คือ การสร้างภูมิคุ้มกันขององค์กรภายใน ระมัดระวังเรื่องของค่าใช้จ่ายเป็นสำคัญ บริษัททำการยกระดับมาตรฐานการจัดการบริหารภายใน สร้างระบบขึ้นมาแล้วทำการควบคุมต้นทุนอย่างใกล้ชิดมาก ๆ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รอดจากวิกฤตโควิด-19 ไปได้โดยที่ไม่ต้องเอาคนออก และทีมงานทุกคนยังแข็งแรงอยู่

เข็มที่สอง คือ ความยืดหยุ่นของ Business Model ซึ่ง บิลค์ วัน กรุ๊ป เหมือนกับธุรกิจที่มีหลายส่วนย่อยมาประกอบกัน ถือเป็นกลยุทธ์ที่ค่อนข้างยืดหยุ่น ทำให้เราฝ่าวิกฤตครั้งนี้มาได้ ด้วยรูปแบบของธุรกิจที่หลากหลายอุตสาหกรรม ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ เราเองก็มีการปรับตัวตาม และมองว่ามีความยืดหยุ่นกับกลุ่มธุรกิจไหนได้บ้าง วัคซีนนี้ส่งผลให้ปีที่แล้วบริษัทยังคงเติบโตอย่าแข็งแรง และมีกำไร

การมุ่งสร้างฐานรากในอุตสาหกรรมก่อสร้างอย่างมั่นคงและแข็งแรง

BUILK ONE GROUP เรามีผลิตภัณฑ์และบริการอยู่หลายตัวด้วยกัน จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมา ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะถูกร้อยเรียงกัน โดยบริษัทต้องการที่จะต้องขยาย Talent ขึ้นมา ปัจจุบันมีทั้งหมด 6 ตัว

เริ่มตั้งแต่ Pojjaman2 (พจมาน) ที่เป็นระบบ ERP สำหรับบริหารธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ มีทั้งผู้รับเหมาญี่ปุ่น และผู้รับเหมาชั้นนำของประเทศไทยใช้บริการระบบบริหารธุรกิจ ควบคุมต้นทุนก่อสร้าง เน้นการควบคุมงบประมาณของโครงการ และบริหารกำไรได้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่เริ่มจนสิ้นสุดโครงการ สามารถทำงานร่วมกันในองค์กรได้อย่างประสิทธิภาพ ผ่านระบบ Cloud ERP 100% ตอบโจทย์การทำงานของผู้รับเหมา ให้สามารถ Work From Home ได้ เข้าถึงและจัดเก็บเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผู้บริหารสามารถอนุมัติเอกสารได้ง่ายบนมือถือ และโปรแกรมพจมานยังเป็นอีกแกนหลักที่ทำให้สามารถพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ๆขึ้นมาให้ผู้รับเหมาทงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ถัดมาคือ Builk.com ที่พัฒนาขึ้นมาช่วยผู้รับเหมา SME ใช้งานฟรี ซึ่งเราอยากจะเปลี่ยนฐานรากของอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ไม่ค่อยมีความรู้หรือระบบระเบียบในเรื่องของการจัดการเท่าไหร่ ให้สามารถใช้งานฟรีมาตลอด 11 ปี และจะยังคงใช้ฟรีตลอดไป และเราต้องการหา Solusion มาช่วยผู้รับเหมาทำงานให้ดียิ่งขึ้น และเข้มแข็งขึ้น จนพัฒนาสู่การเติบโตและใช้ซอฟต์แวร์อื่นๆของเราต่อไปอีก

Jubili bu BUILK ระบบ CRM ที่ช่วยบริหารงานขายสำหรับธุรกิจแบบ B2B พัฒนาจากหลักการขายของธุรกิจ B2B โดยตรง ที่จะทำให้เรื่องการบริหารลูกค้า และติดตามงานของทีมขายมีประสิทธิภาพขึ้น

เราทำ E-Commerce ให้บริการสำหรับขายวัสดุก่อสร้างที่ชื่อว่า Yello เป็นตัวแทนของฝ่ายจัดซื้อ ให้บริการกับกลุ่มลูกค้าที่เรามีโดยเป็นการใช้ประโยชน์จาก data ที่เรามีอยู่

ในส่วนของ Real Estate ซึ่งถือว่าเป็นต้นน้ำของอุตสาหกรรม เจ้าของโครงการที่กำลังสร้างบ้าน สร้างคอนโดขายอยู่ เรามีระบบเข้ามาช่วยให้เขาบริหารงานขายอย่าง โปรแกรมพลอย (PLOY) และบริหารงานแจ้งซ่อม บริหารงานบริการ ของอาคารเหล่านั้นหลังจากที่สร้างเสร็จ ที่เรียกว่า ขวัญใจ (KWANJAI)

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้จะถูกรันแบบสตาร์ทอัพที่อยู่เหนือสตาร์ทอัพอีกที และเราเชื่อว่านี่คือการเทฐานรากที่ดี ฐานรากต่างๆจะถูกสร้างขึ้น วันนี้ฐานรากเหล่านั้นได้เชื่อมต่อกันทั้งหมดแล้ว และพร้อมที่จะทำให้บริษัทเติบโตอย่างมีกำไรต่อไป

ต่อยอดฐานราก ลุยพัฒนาแพลตฟอร์ม Contech Fintech

บิลค์ วัน กรุ๊ป เติบโตมากับสายก่อสร้าง และเราจะลงลึกในสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ โดยการทำ Construction Tech ร่วมกับลูกค้าหลายๆราย ทั้งผู้รับเหมาขนาดใหญ่ ผู้รับเหมาขนาดกลาง รวมไปถึงผู้ผลิตวัสดุ ซึ่งทำให้มีโอกาสพัฒนา Construction Tech ให้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง และที่สำคัญคือเราสามารถเชื่อมต่อ Supply Chain จากฐานรากที่สร้างมา ตั้งแต่โปรแกรมวัสดุ โปรแกรมสำหรับผู้รับเหมา ขนาดเล็กขนาดใหญ่ หรือโปรแกรมสำหรับดีเวลลอปเปอร์ และสิ่งที่อยู่เบื้องหลังการเชื่อมโยงนี้คือการเงิน หรือ Financial Supply Chain หากมีการส่งของต้องมีการจ่ายเงิน ต้องมีเรื่องของธุรกรรม เครดิต และสินเชื่อต่างๆ บริการ Fintech คือสิ่งเราที่กำลังเติบโตอย่างมากในช่วงนี้

จากฐานรากที่เรามีอยู่จะทำให้เราโดดเด่นและแตกต่างกว่ากว่า Startup ที่ทำเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ บิลค์ วัน กรุ๊ป กำลังจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 2 ตัวเกี่ยวกับด้าน Contech นั่นก็คือ BUILK360 และ BUILK Insite ส่วนในฝั่งของ Fintech เรามีระบบ Trade Documents ที่เก็บไว้บนระบบคลาวด์ ซึ่งเตรียมต่อยอดการทำงานกับธนาคารต่อไปที่มีชื่อว่า BUILK Bill loader

BUILK360 ระบบที่เข้ามาช่วยผู้รับเหมาให้สามารถตรวจสอบงาน และอัพเดตความคืบหน้าของงานได้แบบ 360 องศา โดยการรีโมททำงานแบบทางไกลได้ เสมือนการทำงานอยู่ที่หน้าไซต์งานจริงๆ สามารถประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องทั้งดีไซน์เนอร์ เจ้าของโครงการ ผู้ให้คำปรึกษา ผู้รับเหมา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดระยะเวลาในการทำงานได้เร็วขึ้นถึง 3 เท่า ที่สำคัญคือการเทียบระยะเวลาของงานสามารถดูย้อนหลังได้ ลดค่าใช้จ่ายการเดินทางเข้าไปตรวจไซต์งาน ซึ่งตอบโจทย์การทำงานแบบใหม่ในการลดจำนวนคนเข้าไซต์งาน เพื่อลดความเสี่ยงจากโควิด-19

ตอนนี้ BUILK360กำลังถูกใช้งานในโครงการการก่อสร้างขนาดใหญ่ และโครงการชั้นนำ ตอบโจทย์การทำงานควบคุมเรื่องเวลาของผู้รับเหมาทำงานได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดความผิดพลาดของงานได้

BUILK Insite เป็นอีกส่วนที่จะเข้ามาช่วยผู้รับเหมาในเรื่องของการตรวจสอบคุณภาพของงานก่อสร้าง เน้นเข้าไปช่วยผู้รับเหมาในการติดตามระบบการทำงาน ก่อนจะเทปูนเหล็กพร้อมหรือยัง เดินสายไฟเรียบร้อยหรือยัง เป็นการเช็คลิสต์ มีระบบตรวจงานก่อสร้างเป็นรูปแบบ Application ซึ่งกำลังมีผู้รับเหมาชั้นนำ ผู้ผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่เริ่มใช้งาน

สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานระบบบบริหารงานก่อสร้างของพจมานอยู่ แต่ก่อนเน้นควบคุมเรื่องต้นทุนแล้ว ต่อไปเราสามารถช่วยผู้รับเหมาในเรื่องของการควบคุมคุณภาพ และควบคุมระยะเวลาให้ทำงานได้ตรงตามกำหนด ตามหัวใจหลักของการทำงานก่อสร้างนั่นคือ Time + Cost + Quality ไปพร้อมๆกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

BUILK Bill loader สุดท้ายคือการพัฒนาด้าน Fintech โดยมีจุดเริ่มต้นจากการมีระบบ ERP โดยโปรแกรมพจมานเองก็ถือว่าเป็นแกนสำคัญของธุรกิจมากมาย พจมานช่วยให้ผู้รับเหมา 400 กว่ารายทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่สามารถทำงานบนระบบแบบดิจิทัลได้ ในช่วงโควิด-19 ผู้รับเหมาหลายพร้อมปรับเปลี่ยนได้ทันที เห็นได้อย่างชัดเจนคือเรื่องของการทำงาน Work from Home ได้ ไม่ต้องเข้ามาเซ็นต์เอกสาร สามารถวางบิลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ระบบนี้เปิดโอกาสให้ซัพพลายเออร์ที่ทำงานร่วมกับผู้รับเหมามีข้อมูลที่เชื่อมโยงกันเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ทำให้มีข้อมูลที่ธนาคารหรือสถาบันทางการเงินสามารถนำมาใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ได้ และช่วยให้ผู้รับเหมาเข้าถึงสินเชื่อได้รวดเร็วขึ้น สามารถประเมินความเสี่ยงของผู้รับเหมาได้เร็วมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่โอกาสของ contractor และ Subcontractor ต่อไปใน supply chain

ระบบ BUILK Bill loader มีการเริ่มใช้งานจริงกับกลุ่มลูกค้าของพจมานแล้ว อย่างเช่น JWS Construction , TTS Engineering (2004) และพร้อมใช้งานกับ Cre-Ful ซึ่งระบบสามารถเข้ามาช่วยผู้รับเหมาเติบโตไปอีกขั้นจากการใช้ต้นทุนที่ต่ำลง สามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้น รับงานได้มากขึ้น และยังมีผู้รับเหมาขาดใหญ่ที่พร้อมจะมาอยู่กับเรา และเติบโตไปพร้อมๆกัน

เราเคยให้บริการด้านแพลตฟอร์มวงการก่อสร้าง แต่ตอนนี้เรามีคนที่อยู่ครบทั้ง Supply Chain ตั้งแต่ผู้รับเหมา ดีเวลลอปเปอร์ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง รวมถึงธนาคาร และนี่คือรากฐานความมั่นคงสำหรับ BUILK ONE GROUP จากนี้เป้าหมายของเราคือการทำ Tech Startup สัญชาติไทย พร้อมที่จะเติบโต และเข้มแข็งต่อไปในรูปแบบของเราเอง บริษัทเราได้กำไรแล้ว และอยากเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยและตลาดอื่นในเวลาอันใกล้นี้แน่นอน